Coaching and Mentoring
(Hotline Tel. 08-1374-4659,09-5456-9542)


บริการด้านการโค้ชและการเป็นพี่เลี้ยง
(Coaching and Mentoring Services)
TTL ให้บริการด้านการโค้ชและการเป็นพี่เลี้ยงด้วยโค้ชที่ได้รับการรับรองระดับนานาชาติ Professional Certified Coach (ICF) โดยมีบริการดังนี้
-
Mentoring System
-
Coaching Culture
-
One-on-One Coaching
-
Executive Coaching
-
Life Coaching
-
Business Coaching
-
Career Coaching
-
Children Coaching
-
Mediation Coaching
-
Personal Coaching
-
Relationship Coaching
-
Group Coaching
-
Team Coaching
-
Action Learning Coach
ความหมายและความสำคัญของการโค้ช
International Coaching Federation (ICF) (What is ICF, n.d.) ได้ให้นิยามการโค้ชว่า “Partnering with clients in a thought-provoking and creative process that inspires them to maximize their personal and professional potential.” ซึ่งจับประเด็นสำคัญได้ว่าเป็น “การกระตุ้นให้เกิดความคิด” “การสร้างแรงบันดาลใจ” และ “การใช้ศักยภาพด้านส่วนตัวและหน้าที่การงานให้ได้มากที่สุด”
ซึ่ง NeuroLeadership Group (NLG) (NeuroLeadership Group, n.d.) ได้นิยามการโค้ชว่า คือ “การสนับสนุนให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในแง่บวกด้วยการปรับปรุงความคิด/กระบวนการคิด” (Facilitating positive change by improving thinking) อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการโค้ชในองค์กร Ladyshewsky (2010) ได้กล่าวถึงบทบาทการโค้ชของหัวหน้างานว่า “เป็นการสร้างความสัมพันธ์ บนพื้นฐานของความเชื่อใจและเชื่อมั่นในศักยภาพของปัจเจกบุคคลที่เป็นส่วนหนึ่งของทีม”
โดยอาจกล่าวได้ว่า การโค้ช คือ การสร้างความสัมพันธ์ที่ตรงไปตรงมา เปิดเผย ปลอดภัย ระหว่างโค้ชและผู้รับการโค้ช เพื่อให้เกิดการสื่อสารในรูปแบบของการถามคำถามที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้รับการโค้ชได้ตระหนักรู้ในตนเองและได้รับการสนับสนุนจากโค้ชให้เกิดการปฏิบัติ ส่งผลทำให้ผู้รับการโค้ชได้ผลลัพธ์ที่ปรารถนาในที่สุดโดยอยู่บนพื้นฐานของจริยธรรมและจรรยาบรรณของการโค้ช โดยประโยชน์ของการโค้ชสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
ประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับพนักงาน
Ladyshewsky (2010) ได้กล่าวถึงผลของการโค้ช (โดยหัวหน้างาน) ที่เกิดกับผู้รับการโค้ช (พนักงาน) ไว้ว่า “สามารถช่วยให้ผู้เรียน (พนักงาน) ได้รับประโยชน์ในการพัฒนาทักษะและความรู้” และสำหรับตัวหัวหน้างานเองก็ได้ “สร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับพนักงาน ได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวพนักงานและตัวพวกเขาเองในกระบวนการโค้ช” อีกทั้งการใช้การโค้ชในการแสดงภาวะผู้นำสำหรับบริษัทขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ส่งผลให้เกิดการพัฒนาความรู้และศักยภาพในการเติบโตพร้อม ๆ ไปกับการปรับปรุงด้านการสื่อสารและความสัมพันธ์ระหว่างกัน นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการตระหนักในภาวะผู้นำที่แตกต่างกันและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับตนเองและผลกระทบที่จะมีต่อผู้อื่น ซึ่งอาจสรุปได้ว่า การโค้ชช่วยให้หัวหน้างานได้รู้จักพนักงานเพิ่มขึ้น เสริมสร้างความสัมพันธ์และการสื่อสารที่ดีระหว่างหัวหน้างานและพนักงาน ก่อให้เกิดการพัฒนาด้านการเรียนรู้และทักษะ การตระหนักรู้เกี่ยวกับตนเองและผู้อื่น และเป็นสิ่งที่พนักงานต้องการได้รับจากองค์การ
ประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับผู้บริหารและองค์การ
การโค้ชได้รับการรยอมรับว่าเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญต่อการบริหารจัดการองค์การ โดยWillis & Britnor Guest (2003) พูดถึงความสำคัญของการโค้ชว่า “การโค้ชเป็นหนึ่งในกระบวนการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาทุก ๆ ระดับ และจำเป็นอย่างยิ่งยวดสำหรับการสร้างความสอดคล้องและสมดุลระหว่างการพัฒนาตนเองของพนักงานและเป้าหมายขององค์การ ซึ่งเมื่อนำไปสอบถามกับผู้บริหาร ก็ได้รับคำตอบในแนวทางเดียวกัน ผลการสำรวจโดย Career Partners International (2008) พบว่า จำนวน 40% จากจำนวน 400 คน ที่เป็นผู้บริหารชาวอเมริกันและแคนาดาให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขาเลือกการโค้ชเป็นเครื่องมือในการพัฒนาภาวะผู้นำ นอกเหนือจากนั้น ผู้บริหารยังถูกคาดหวังด้วยว่าจะต้องสวมบทบาทโค้ชให้กับพนักงานของตน สอดคล้องกับ McLean et al. (2005) ที่ได้พูดถึงความสำคัญของการโค้ชพนักงานโดยหัวหน้างานว่า ควรต้องเป็นสมรรถนะหลักด้านการบริหารจัดการ (Core managerial skill) ที่ประกอบด้วย การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและเปิดเผย, การมุ่งเน้นการทำงานเป็นทีม, การให้คุณค่าของคนเหนืองาน, และการยอมรับเรื่องความไม่ชัดเจนด้านสภาพแวดล้อมของการทำงานเพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาพนักงานและปรับปรุงผลการทำงาน
เงื่อนไขและข้อตกลงในการโค้ช
-
เมื่อทำสัญญาการบริการการโค้ชแล้ว จะจำกัดความ “ผู้ให้บริการ” ว่า “โค้ช (Coach)” และ “ผู้เข้ารับบริการ” ว่า “โค้ชชี่ (Coachee)” และ “กระบวนการให้บริการ” ว่า “การโค้ช (Coaching)” โดยการบริการทั้งหมดอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของผู้ให้บริการ และสามารถปฏิเสธหรือยุติการโค้ชให้แก่ผู้รับบริการไม่ว่าในกรณีใดทั้งสิ้น
-
ผู้เข้ารับบริการต้องปฏิบัติตาม รายละเอียด และขั้นตอน ต่างๆ ด้วยความสมัครใจไม่ได้เกิดจากการบังคับไม่ว่าในกรณีใด ๆ
-
ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการให้บริการจะถูกเก็บเป็นความลับและไม่มีการนำมาเปิดเผยโดยปราศจากการยินยอมของผู้รับบริการ
-
ไม่อนุญาตให้มีการถ่ายภาพ บันทึกเสียง หรือภาพวีดีโอ เว้นแต่จะทำข้อตกลงกันเป็นรายกรณี
-
ผู้ให้บริการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ในการปฏิบัติของผู้รับบริการที่ได้สมัครใจปฏิบัติด้วยตัวเองไม่ว่าในกรณีใดทั้งสิ้น
-
สงวนสิทธิ์ในการคืนค่าบริการไม่ว่าในกรณีใด หากผู้เข้ารับบริการได้เริ่มกระบวนการรับบริการแล้ว ในกรณีนัดหมายแล้วมีการเปลี่ยนแปลงโดย “ผู้จองบริการ” “ไม่ได้เข้ารับบริการ” ผู้ให้บริการจะทำการคืนค่าบริการให้ 50% ใน 10 วันทำการ
การเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับการโค้ช
-
ก่อนเข้ารับบริการการโค้ช ผู้เข้ารับบริการควรพักผ่อนให้เต็มที่ ทำจิตใจให้สดชื่น แจ่มใส เพื่อให้กระบวนการโค้ชเป็นไปอย่างราบรื่นและทีประสิทธิภาพ
-
เดินทางมาก่อนเวลาประมาณ 15 นาที เพื่อลดความตื่นเต้นและช่วยให้เกิดสมาธิ
-
ไม่ควรมีผู้ติดตาม เนื่องจากไม่อนุญาติให้ผู้ติดตามเข้าร่วมกระบวนการโค้ช